บทที่ 6 จอมเผด็จการ (75%)
หลังจากแจ้นออกมาจากห้องพักปิยฉัตรก็เรียกรถของทางรีสอร์ตให้ไปส่งในตัวเมือง ระหว่างทางคุณหมอสาวนั่งพักสายตานิดหน่อย ก่อนจะลืมตาขึ้น แล้วทำหน้างงๆ เมื่อเห็นทัศนียภาพสองข้างทาง
“นี่ไม่ใช่ทางเข้าไปในเมืองนี่นา คุณจะพาฉันไปไหน!” เธอเอ่ยถามด้วยท่าทางตื่นๆ เพราะไม่รู้ว่าคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถเป็นคนดีหรือคนร้ายกันแน่
และที่สำคัญคือไม่รู้ว่าภายใต้การออกนอกเส้นทางเป็นแผนของสองพ่อลูกนั่นหรือเปล่า ว่าลูกชายแสบแล้ว ตาเฒ่านั่นยิ่งร้ายลึกเป็นทวีคูณ
“นายใหญ่เกรงว่านายหญิงจะหนีไม่พ้นมือนายหัว เลยให้ผมพานายหญิงไปหลบที่บ้านพักริมทะเลอีกหลังครับ” วาจาที่หลุดออกมาจากปากคนขับรถทำให้ปิยฉัตรอ้าปากค้าง
นั่นไง! เธอคิดผิดเสียที่ไหน หนึ่งในสองพ่อลูกนั่นมีเอี่ยวจริงๆ
“นายใหญ่กับนายหัวของคุณไม่ได้กำลังเล่นตลกกับฉันใช่ไหม”
“ไม่ครับ”
“แน่ใจนะ”
เธอหรี่ตามองคนที่กำลังบังคับพวงมาลัยให้รถเคลื่อนไปข้างหน้า ขณะเอ่ยถามเป็นเชิงย้ำ เพราะในถิ่นของสองพ่อลูกจอมวายร้ายนั่น บอกตรงๆ ว่าเธอไม่ไว้ใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น
“แน่ใจครับ”
“แล้วบ้านพักริมทะเลที่ว่าอยู่ไกลจากรีสอร์ตมากไหม” คุณหมอสาวเริ่มซักไซ้ลงลึกไปถึงรายละเอียด เพราะยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ได้ฟังจากปากอีกฝ่ายจะเป็นความจริง
“พอสมควรครับ นายหญิงจะนอนก็ได้นะครับ ถ้าถึงแล้วผมจะปลุกครับ”
วาจาที่ได้รับฟังมิอาจทำให้ปิยฉัตรคลายใจได้ หากทว่าคนที่ตั้งใจจะนั่งดูเหตุการณ์ไปจนถึงจุดหมายกลับอ้าปากหาวหวอดๆ ในไม่กี่นาทีถัดมา มิหนำซ้ำเธอยังรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้เสียอย่างนั้น
“ถ้าฉันนอน คุณจะไม่พาฉันไปฆ่าหมกป่าใช่ไหม”
หลังจากทนความเพลียและความง่วงต่อไปไม่ไหวคนที่ตากำลังจะปิดอยู่รอมร่อก็เอ่ยเสียงเนือยๆ ขณะยกมือขึ้นกอดอก เมื่อรู้สึกว่าไอเย็นจากแอร์ในรถยนต์ทำให้เธอหนาวผิดปกติ
“ไม่แน่นอนครับ นายหญิงสบายใจได้ครับ”
“โอเค ถ้าถึงแล้วปลุกด้วยแล้วกัน”
ที่สุดปิยฉัตรก็ยอมจำนนต่อความง่วงงุน เสียงเนือยๆ ติดจะหาวเอ่ยคล้ายกำชับในท้ายประโยค แล้วหลับตาลงในวินาทีที่อีกฝ่ายขานรับ ส่วนในใจก็ได้แต่ภาวนาว่าเจ้าสัวทรงพลจะไม่หักหลังเธอ
ปิยฉัตรหลับด้วยความเพลียจัด จนกระทั่งถึงที่หมายคนขับรถถึงได้เอ่ยเรียกเบาๆ หญิงสาวก้าวขาลงจากรถอย่างงงๆ ครั้นจะเอ่ยถามอะไรอีกฝ่ายก็สตาร์ตเครื่องยนต์จากไปเสียแล้ว ไม่นานก็มีหญิงวัยกลางคนเดินมายกมือไหว้ด้วยท่าทางนอบน้อม และแนะนำตัวว่าเป็นแม่บ้าน ก่อนจะเชิญเธอเข้าบ้าน
ทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในบ้านหรูติดริมทะเลปิยฉัตรก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อได้ยินเสียงสบถถ้อยคำหยาบคายของใครบางคน ครั้นเงี่ยหูฟังก็ชักจะรู้สึกว่าเสียงนั้นมันช่างคุ้นหูเสียเหลือเกิน
“ไอ้พวกเวร! ปล่อยกูนะโว้ย! พวกมึงมามัดกูไว้หาพ่อมึงเหรอ!”
“นายใหญ่สั่งครับ พวกผมขัดนายใหญ่ไม่ได้ ขอโทษจริงๆ ครับนายหัว”
ยุทธนาซึ่งอาวุโสสุดในบรรดาชายฉกรรจ์ทั้งสี่ที่เอาตัวจอมพลมาที่นี่เอ่ยเสียงสั่นๆ ขณะยกมือไหว้เจ้านายปลกๆ อย่างขอลุแก่โทษ ด้วยรู้ดีว่าอีกฝ่ายโหด ดิบ เถื่อน และบ้าเลือดมากแค่ไหน
“ถ้าหลุดไปได้ กูจะกระทืบพวกมึงให้ไส้แตกเรียงตัว” วาจาเอาเรื่องในท้ายประโยคทำให้ลูกน้องต่างหน้าซีดตัวสั่น แต่กระนั้นก็ยังไม่วายทำใจดีสู้เสือ
“งั้นนายหัวก็ดื่มน้ำก่อนนะครับจะได้ใจเย็นๆ”
แทนที่จะปล่อยเจ้านายหนุ่มซึ่งกำลังคลุ้มคลั่งประหนึ่งพายุร้าย ยุทธนากลับเอาแก้วน้ำมาจ่อตรงปากบางเฉียบ แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกสุดตัว เมื่อโดนคนที่ถูกมัดมือทั้งสองข้างติดกับเก้าอี้ มัดเท้าติดกัน ตวาดเข้าให้
“กูไม่ดื่มโว้ย!”
“งั้นพวกผมขออนุญาตนะครับ”
ขาดคำชายอีกสามคนที่เหลือก็ต่างกรูเข้ามาช่วยกันจับจอมพลไม่ให้ดิ้นรนฟึดฟัด แล้วกลอกน้ำในแก้วใส่ปากเจ้าพ่อมาเฟียที่กำลังอาละวาดด้วยความฉุนจัด
“ถ้ากูหลุดไปได้ พวกมึงเตรียมตัวตายได้เลย” น้ำเสียงขุ่นคลั่กถูกเค้นออกมาจากลำคอแกร่ง ขณะกวาดสายตาอำมหิตมองชายทั้งสี่อย่างเอาเรื่อง
“เมตตาพวกผมด้วยเถอะครับ พวกผมเลี่ยงคำสั่งของนายใหญ่ไม่ได้จริงๆ”
“เออ! กูจะเมตตาพวกมึงก็ได้”
“ขอบคุณครับนาย” สี่หนุ่มต่างพากันละล่ำละลักด้วยความยินดีว่าตัวเองจะรอดตายแล้ว แต่ไม่นานก็ต้องพากันอ้าปากค้างและเหงื่อตกเมื่อได้ยินประโยคถัดมา
“เดี๋ยวกูจองศาลาให้”
“โธ่…นายครับ”
ชายร่างยักษ์ต่างพากันโอดครวญ เพราะรู้ดีว่าเวลาคลุ้มคลั่งจอมพลไม่ต่างอะไรจากขีปนาวุธที่พร้อมจะทำลายล้างทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง
“พวกมึงเอาน้ำอะไรให้กูกินวะ ทำไมมันร้อนอย่างนี้” หลังจากนั่งจ้องหน้าชายทั้งสี่ที่ยืนคุมเชิงด้วยสายตาอาฆาตอยู่พักใหญ่ จอมพลก็รู้สึกร้อนวูบวาบแปลกๆ ไปทั้งสรรพางค์กาย
“เอ่อ…” คราวนี้น้องเล็กสุดอย่างกำภูอ้าปากทำท่าอึกอัก
“มึงจะเอ่ออ่าหาพระแสงอะไรวะ กูถาม…ตอบ!” คนที่อยู่ๆ ก็เกิดลำคอแห้งผาก และร้อนรุ่มไปหมด ขึ้นเสียงกัมปนาทด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน
“ยาปลุกเซ็กส์ครับ” ที่สุดคนที่โดนพี่ใหญ่อย่างยุทธนากระทุ้งสีข้างกดดันให้ตอบคำถามก็หลุดปากโพล่งออกมา ก่อนจะรีบก้มหน้าหลบตาด้วยความหวาดหวั่น
“ไอ้ฉิบหาย! มึงให้กูแดกยาปลุกเซ็กส์ทำเหี้ยอะไร! บ้านนี้ไม่มีผู้หญิงให้กูเอาเว้ย!” คนที่ถูกวางยาคำรามลั่น ใบหน้าหล่อแบบดิบๆ ถมึงทึง หนวดเคราที่ขึ้นอยู่เหนือริมฝีปากบางเฉียบถึงกับกระดิก
“นายใหญ่เตรียมไว้ให้นายหัวแล้วครับ บอกว่าถือเป็นของขวัญวันเกิดย้อนหลังครับ” ยุทธนาเอ่ยบอกเร็วๆ จนลิ้นแทบพันกัน ก่อนจะหลบตาวูบ
“ของขวัญระยำน่ะสิ! กูโตแล้ว! ไม่เอาของขวัญโว้ย!”
“นายใหญ่สั่งมาว่าต้องเอาสถานเดียวครับ เอาอย่างอ่อนโยน และห้ามใส่คอนดอมด้วยครับ”
ลูกน้องยังคงถ่ายทอดคำสั่งของเจ้าสัวทรงพลด้วยเสียงสั่นๆ แล้วก็ต้องพากันสะดุ้งเฮือก หน้าซีดเผือด เมื่อได้ยินเสียงสบถของเจ้านายหนุ่ม
“โดนยาปลุกเซ็กส์ แล้วจะให้กูเอาอย่างอ่อนโยนเนี่ยนะ นรกเถอะว่ะ!”
“นายใหญ่บอกว่านายหัวไม่กล้าทำรุนแรงกับคนที่นายใหญ่ส่งมาหรอกครับ”
“ฝากไปบอกตาเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์นั่นด้วย ว่ากูไม่เอา กูมีมือช่วยตัวเองได้” คนถูกวางยาเค้นเสียงห้าวเจือหอบหนักๆ ทำท่าฮึดฮัด ทั้งเดือดดาลและกระหายอยากฟัดผู้หญิงเต็มกำลัง
แต่ไม่หรอก! อะไรที่พ่อเขาอยากได้ ตาเฒ่าจอมบงการนั่นจะไม่สมหวัง
“นายใหญ่บอกว่าถ้านายหัวช่วยตัวเอง จะถือว่านายหัวป๊อดครับ”
ยุทธนาเอ่ยอย่างยิ้มๆ ก่อนที่ชายทั้งสี่จะแตกฮือคนละทิศคนละทาง จากนั้นก็พากันกระโดดหนีไปทางหน้าต่างของบ้านชั้นเดียว เมื่อจอมพลออกแรงกระชากแขนทั้งสองข้างที่ถูกมัดติดกับพนักเก้าอี้จนหลุด แล้วแก้มัดที่ข้อเท้า พ่อคนเจ้าอารมณ์ตั้งใจว่าจะไล่ชำระความกับลูกน้องทั้งสี่ให้สาแก่ใจ หากว่าไม่รู้สึกเหมือนมีใครกำลังแอบมองตนอยู่
ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนเป้าหมายจากหน้าต่าง สืบเท้าก้าวไปยังประตู ชั่วเสี้ยวนาทีคนที่หลบอยู่หลังประตูถึงกับผงะ เมื่อมองลอดช่องของประตูที่แง้มอยู่แล้วเห็นจอมพลกำลังยืนจังก้าอยู่
แย่แล้ว! เป็นไอ้เถื่อนจริงๆ ด้วย!
แล้วมันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!
โอ๊ย! เธอโดนตาเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์หลอกอีกแล้วเหรอเนี่ย โง่ดักดานอะไรอย่างนี้วะไอ้ปี่
ไม่ได้การแล้ว เธอต้องรีบหนีออกไปจากที่นี่ ก่อนที่ไอ้คนบ้านั่นจะทำอะไรอย่างที่ได้ส่งข้อความมาข่มขู่เธอไว้เมื่อชั่วโมงก่อน คนบ้าดีเดือดอย่างจอมพลทำได้ทุกอย่าง
และการทรมานเธอให้เหมือนตายทั้งเป็นก็เป็นชัยชนะอันแสนหอมหวานสำหรับเขา
